Current Transformer (CT) อุปกรณ์วัดกระแสไฟฟ้าที่โรงงานไม่ควรมองข้าม

by adminPosted on 22 ตุลาคม 202422 ตุลาคม 2024

Posted in Product DetailCURRENT TRANSFORMER

• • ในการดำเนินงานของโรงงานอุตสาหกรรม การวัดและควบคุมกระแสไฟฟ้าอย่างถูกต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดCurrent Transformer (CT) หรือ หม้อแปลงกระแสไฟฟ้า คืออุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการวัดกระแสไฟฟ้าผ่านสายส่งและอุปกรณ์ต่างๆ โดยเปลี่ยนกระแสสูงให้เป็นสัญญาณที่สามารถอ่านและวิเคราะห์ได้ง่าย ช่วยป้องกันความเสียหายและเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบไฟฟ้า
• Current Transformer คืออะไร?
  • Current Transformer (CT) เป็นหม้อแปลงไฟฟ้าชนิดพิเศษที่ทำหน้าที่ แปลงค่ากระแสไฟฟ้าสูงในระบบไฟฟ้า ให้เป็นสัญญาณกระแสต่ำในระดับที่ปลอดภัยและง่ายต่อการวัด เช่น จาก 1,000A เหลือเพียง 5A CT นิยมใช้ในระบบไฟฟ้าแรงดันสูง และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตรวจวัดต่างๆ เช่นแอมมิเตอร์, รีเลย์ป้องกัน, และระบบควบคุมพลังงาน
• ประเภทของ Current Transformer
  • Wound CT (ชนิดขดลวด) ใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องการวัดกระแสโดยตรงจากวงจรไฟฟ้า เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง
  • Bar CT (ชนิดแท่ง) มีโครงสร้างเป็นแท่งโลหะตรงกลาง เหมาะกับระบบไฟฟ้าแรงสูง ติดตั้งง่าย ทนทานต่อกระแสสูง
  • Split-Core CT (ชนิดแกนแยก) สามารถเปิด-ปิดแกนเพื่อคล้องสายไฟได้โดยไม่ต้องหยุดการทำงานเหมาะกับงานบำรุงรักษาหรือการติดตั้งในระบบที่ไม่สามารถตัดกระแสได้
• ประโยชน์ของ Current Transformer ในโรงงานอุตสาหกรรม
  • วัดกระแสไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถตรวจสอบการใช้พลังงานไฟฟ้าในกระบวนการผลิตได้
  • ป้องกันความเสียหายของระบบไฟฟ้า ใช้กับรีเลย์ป้องกัน เพื่อตัดวงจรเมื่อกระแสเกินพิกัด
  • สนับสนุนการจัดการพลังงาน เชื่อมต่อกับระบบ SCADA หรือ Energy Management System (EMS) เพื่อตรวจสอบและควบคุมพลังงาน
  • เพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการวัดกระแสไฟฟ้าสูงโดยแปลงเป็นค่าที่ปลอดภัยกว่า
• การประยุกต์ใช้ Current Transformer ในโรงงาน
  • ตรวจวัดกระแสในสายการผลิต ใช้ติดตั้งกับมอเตอร์และเครื่องจักร เพื่อควบคุมไม่ให้กระแสเกินพิกัด
  • ระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและกระแสเกิน เชื่อมต่อกับรีเลย์ป้องกัน เพื่อป้องกันการเสียหายของอุปกรณ์
  • การจัดการพลังงาน (Energy Management) ติดตั้งร่วมกับระบบ EMS เพื่อตรวจสอบการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • งานบำรุงรักษาและตรวจสอบระบบไฟฟ้า ใช้ CT ชนิด Split-Core สำหรับงานตรวจสอบโดยไม่ต้องหยุดการทำงานของระบบ
• การเลือก Current Transformer ที่เหมาะสม
  • อัตราส่วนการแปลง (Ratio): เลือกอัตราส่วนที่เหมาะกับกระแสไฟฟ้าที่ต้องการวัด เช่น 1000:5A
  • ความแม่นยำ (Accuracy Class): เลือก CT ที่มีความแม่นยำเหมาะกับการใช้งาน เช่น Class 0.5 หรือ Class 1 สำหรับงานวัดพลังงาน
  • พิกัดกระแสสูงสุด (Rated Primary Current): พิจารณากระแสสูงสุดที่ระบบรองรับได้
  • ชนิดของ CT: เลือกประเภทที่เหมาะสม เช่น Split-Core สำหรับงานบำรุงรักษาหรือ Bar CT สำหรับงานติดตั้งถาวร
• ตัวอย่างการใช้งานจริง:  โรงงานผลิตเครื่องจักรกล
  • โรงงานผลิตเครื่องจักรแห่งหนึ่งเผชิญปัญหากระแสไฟฟ้าเกินพิกัดบ่อยครั้ง ส่งผลให้มอเตอร์หลักเกิดความเสียหายบ่อยๆ ทางโรงงานจึงติดตั้ง Current Transformer (CT) ร่วมกับรีเลย์ป้องกันในทุกสายการผลิต เมื่อมีกระแสไฟเกิน รีเลย์จะตัดวงจรทันที ลดความเสียหายของอุปกรณ์ได้ถึง 80% พร้อมกับการเชื่อมต่อข้อมูลกระแสไฟฟ้าเข้ากับ SCADA ทำให้การตรวจสอบการใช้พลังงานง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
• ข้อดีและข้อจำกัดของ Current Transformer
  • ข้อดี
  • ติดตั้งและใช้งานง่าย: มีหลายขนาดและรูปแบบที่เหมาะกับสภาพการใช้งาน
  • รองรับกระแสไฟฟ้าสูง: ใช้งานได้แม้ในระบบไฟฟ้าแรงสูง
  • เพิ่มความปลอดภัย: ลดความเสี่ยงจากการวัดกระแสไฟฟ้าสูงโดยตรง
  • ช่วยให้การจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพ: ใช้ร่วมกับระบบ EMS หรือ SCADA
  • ข้อจำกัด
  • ต้องเลือกอัตราส่วนการแปลงให้เหมาะสม: มิฉะนั้นอาจทำให้ค่าการวัดผิดพลาด
  • ต้องมีการบำรุงรักษาเป็นระยะ: เพื่อรักษาความแม่นยำของการวัด
  • สัญญาณอาจถูกรบกวนได้: หากติดตั้งใกล้แหล่งกำเนิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
• การดูแลรักษาและบำรุงรักษา Current Transformer
  • ตรวจสอบการเชื่อมต่อและฉนวนอย่างสม่ำเสมอ: เพื่อป้องกันการรั่วไหลของกระแส
  • ทำความสะอาดและตรวจสอบฉนวน: ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร
  • สอบเทียบเป็นระยะ: เพื่อรักษาความแม่นยำของการวัด
• สรุป
  • Current Transformer (CT) เป็นอุปกรณ์สำคัญในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ช่วยวัดและควบคุมกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันความเสียหายจากกระแสเกินและไฟฟ้าลัดวงจร พร้อมสนับสนุนการจัดการพลังงานในโรงงานอย่างยั่งยืน โรงงานที่ต้องการความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงในการผลิต ควรให้ความสำคัญกับการเลือก CT ที่เหมาะสม พร้อมทั้งดูแลรักษาและสอบเทียบอย่างสม่ำเสมอ